เก้าอี้บาร์ เฟอร์นิเจอร์สุดชิคที่ไม่ได้มีไว้แค่ในบาร์
เก้าอี้บาร์ – คำที่อาจทำให้หลายคนนึกถึงบรรยากาศสุดเท่ในร้านเหล้าหรือผับ แต่รู้หรือไม่ว่า เฟอร์นิเจอร์ชิ้นนี้กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในการตกแต่งบ้านและสำนักงานยุคใหม่ ด้วยดีไซน์ที่ทันสมัย ประโยชน์ใช้สอยที่หลากหลาย และความสามารถในการเพิ่มบรรยากาศสุดชิคให้กับทุกพื้นที่ เก้าอี้บาร์จึงกลายเป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับคนรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบการตกแต่งบ้านแบบมีสไตล์
แต่เก้าอี้บาร์คืออะไรกันแน่? ทำไมถึงได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ? และมีแบบไหนบ้างที่เหมาะกับการใช้งานในบ้านหรือสำนักงานของคุณ? บทความนี้จะพาคุณไปทำความรู้จักกับเก้าอี้บาร์อย่างละเอียด ตั้งแต่ประวัติความเป็นมา ประเภทต่างๆ วัสดุที่ใช้ผลิต ไปจนถึงเคล็ดลับการเลือกซื้อและการดูแลรักษา เพื่อให้คุณสามารถเลือกเก้าอี้บาร์ที่ใช่สำหรับพื้นที่ของคุณได้อย่างมั่นใจ พร้อมแล้วหรือยัง? ไปทำความรู้จักกับโลกของเก้าอี้บาร์กันเลย!
เก้าอี้บาร์คืออะไร?
เก้าอี้บาร์ สตูล (Bar Stool) คือเก้าอี้ที่มีความสูงมากกว่าเก้าอี้ทั่วไป โดยทั่วไปมีความสูงประมาณ 60-75 เซนติเมตร (สำหรับเคาน์เตอร์) หรือ 75-85 เซนติเมตร (สำหรับบาร์) ออกแบบมาเพื่อใช้นั่งที่บาร์หรือเคาน์เตอร์สูง ลักษณะเด่นของเก้าอี้บาร์คือมีที่นั่งแคบกว่าเก้าอี้ทั่วไป อาจมีหรือไม่มีพนักพิง และมักมีที่พักเท้าเพื่อความสบายในการนั่ง
ประวัติความเป็นมาของเก้าอี้บาร์
เก้าอี้บาร์ นั่งสบาย มีประวัติย้อนกลับไปในช่วงศตวรรษที่ 19 ในสหรัฐอเมริกา ยุคที่บาร์และซาลูนกำลังเฟื่องฟู ต้นกำเนิดของเก้าอี้บาร์มาจากความต้องการที่นั่งสูงเพื่อให้ลูกค้าสามารถนั่งดื่มที่เคาน์เตอร์บาร์ได้อย่างสะดวกสบาย
– ทศวรรษ 1900 : เก้าอี้บาร์แบบดั้งเดิมเริ่มปรากฏในบาร์และร้านอาหาร มักทำจากไม้และมีดีไซน์เรียบง่าย
– ทศวรรษ 1950 : เก้าอี้บาร์เริ่มได้รับความนิยมในบ้านเรือน โดยเฉพาะในครัวสไตล์อเมริกันที่มีเคาน์เตอร์สูง
– ทศวรรษ 1960-1970 : ยุคทองของเก้าอี้บาร์ ดีไซเนอร์เริ่มทดลองใช้วัสดุใหม่ๆ เช่น พลาสติกและโลหะ ทำให้เกิดดีไซน์ที่ทันสมัยและหลากหลายมากขึ้น
– ปัจจุบัน : เก้าอี้บาร์กลายเป็นเฟอร์นิเจอร์ยอดนิยมในการตกแต่งบ้านและสำนักงานสมัยใหม่ มีให้เลือกหลากหลายรูปแบบ วัสดุ และสไตล์ เพื่อตอบสนองความต้องการที่แตกต่างกัน
วิวัฒนาการของการใช้งาน
จากจุดเริ่มต้นในบาร์และร้านอาหาร เก้าอี้ บาร์ ได้ขยายขอบเขตการใช้งานมาสู่พื้นที่ต่างๆ มากมาย
– ครัวและห้องรับประทานอาหาร : ใช้กับเคาน์เตอร์เกาะกลางครัวหรือโต๊ะอาหารแบบสูง
– ห้องนั่งเล่น : ใช้เป็นที่นั่งเสริมหรือตกแต่งมุมพักผ่อน
– สำนักงาน : ใช้ในพื้นที่ทำงานร่วม (Co-working Space) หรือโต๊ะทำงานแบบยืน
– ร้านกาแฟ : สร้างบรรยากาศทันสมัยและประหยัดพื้นที่
– สตูดิโอ : ใช้ในสตูดิโอศิลปะหรือการถ่ายภาพ
ความนิยมที่เพิ่มขึ้นของเก้าอี้บาร์ในปัจจุบันสะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงในไลฟ์สไตล์และการออกแบบที่อยู่อาศัย ที่เน้นความยืดหยุ่น ประหยัดพื้นที่ และความเป็นอเนกประสงค์มากขึ้น
เคล็ดลับในการเลือกซื้อเก้าอี้บาร์
พิจารณาความสูงให้เหมาะสม
• วัดความสูงของเคาน์เตอร์หรือโต๊ะที่จะใช้
• เลือกเก้าอี้ที่มีความสูงพอดี ให้ระยะห่างระหว่างที่นั่งและพื้นโต๊ะประมาณ 25-30 ซม.
คำนึงถึงพื้นที่ใช้สอย
• วัดขนาดพื้นที่ที่จะวางเก้าอี้
• เว้นระยะห่างระหว่างเก้าอี้แต่ละตัวประมาณ 15-20 ซม. เพื่อความสะดวกในการนั่ง
เลือกสไตล์ให้เข้ากับการตกแต่ง
• พิจารณาสไตล์การตกแต่งโดยรวมของพื้นที่
• เลือกเก้าอี้ที่เข้ากับบรรยากาศและเฟอร์นิเจอร์อื่นๆ
ทดสอบความสบายในการนั่ง
• นั่งทดลองเก้าอี้ก่อนซื้อ (หากเป็นไปได้)
• สังเกตความกว้างของที่นั่ง ความสูงของพนักพิง และตำแหน่งของที่วางเท้า
พิจารณาความทนทาน
• ตรวจสอบคุณภาพของวัสดุและการเชื่อมต่อ
• อ่านรีวิวหรือขอคำแนะนำจากผู้ใช้จริง
คำนึงถึงการดูแลรักษา
• เลือกวัสดุที่ทำความสะอาดง่าย หากใช้ในพื้นที่ที่มีการรับประทานอาหารหรือเครื่องดื่ม
• พิจารณาความทนทานต่อการใช้งานในระยะยาว
ตรวจสอบน้ำหนักที่รับได้
• เลือกเก้าอี้ที่รับน้ำหนักได้เพียงพอสำหรับผู้ใช้งาน
• หากใช้ในพื้นที่สาธารณะ ควรเลือกรุ่นที่รับน้ำหนักได้มากกว่าปกติ
พิจารณาฟังก์ชันพิเศษ
• หากต้องการความยืดหยุ่น อาจเลือกเก้าอี้แบบปรับระดับได้หรือมีล้อ
• สำหรับพื้นที่จำกัด อาจพิจารณาแบบพับได้
เปรียบเทียบราคาและคุณภาพ
• ตั้งงบประมาณและเปรียบเทียบราคาจากหลายแหล่ง
• อย่าลืมพิจารณาคุณภาพควบคู่ไปกับราคา
ตรวจสอบการรับประกัน
• สอบถามเงื่อนไขการรับประกันและบริการหลังการขาย
• เก็บใบเสร็จและเอกสารการรับประกันไว้เผื่อกรณีต้องใช้บริการในอนาคต
การเลือกเก้าอี้บาร์ที่เหมาะสมจะช่วยเพิ่มทั้งความสวยงามและประโยชน์ใช้สอยให้กับพื้นที่ของคุณ ไม่ว่าจะเป็นบ้าน ร้านอาหาร หรือสำนักงาน การพิจารณาปัจจัยต่างๆ อย่างรอบคอบจะช่วยให้คุณได้เก้าอี้บาร์ที่ตอบโจทย์การใช้งานและสวยงามในราคาที่คุ้มค่า
ประเภทของเก้าอี้บาร์ : ความหลากหลายเพื่อทุกสไตล์และการใช้งาน
เก้าอี้บาร์มีหลากหลายประเภท แต่ละแบบมีเอกลักษณ์และข้อดีแตกต่างกันไป การเลือกประเภทที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับสไตล์การตกแต่ง พื้นที่ใช้สอย และความต้องการเฉพาะบุคคล มาดูกันว่ามีเก้าอี้บาร์แบบไหนบ้าง
1. เก้าอี้บาร์แบบมีพนักพิง (Backed Bar Stools)
เก้าอี้บาร์ประเภทนี้เป็นที่นิยมเพราะให้ความสบายในการนั่งระยะยาว เหมาะสำหรับครัว บาร์ในบ้าน หรือร้านอาหารที่ต้องการให้ลูกค้านั่งได้นาน
พนักพิงสูง
– ให้การรองรับเต็มแผ่นหลัง เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาหลัง
– มักมีดีไซน์หรูหรา เพิ่มความสง่างามให้กับพื้นที่
– บางรุ่นมีที่วางแขน เพิ่มความสบายมากขึ้น
– อาจทำให้พื้นที่ดูแน่นขึ้นเล็กน้อย เหมาะกับพื้นที่กว้าง
พนักพิงต่ำ
– ให้การรองรับส่วนล่างของหลัง สบายแต่ยังคงความโปร่งโล่ง
– เหมาะสำหรับพื้นที่ที่ต้องการความสมดุลระหว่างความสบายและความโปร่ง
– มักมีดีไซน์ทันสมัย เข้ากับการตกแต่งแบบร่วมสมัย
– บางรุ่นมีพนักพิงแบบโค้งรับหลัง เพิ่มความสบายโดยไม่เสียความสวยงาม
ข้อควรพิจารณา
– ความสูงของพนักพิง : ควรเลือกให้เหมาะกับความสูงของผู้ใช้งานส่วนใหญ่
– รูปทรงของพนักพิง : มีทั้งแบบตรง โค้ง หรือมีลวดลาย เลือกให้เข้ากับสไตล์การตกแต่ง
– วัสดุของพนักพิง : อาจเป็นไม้ โลหะ หรือวัสดุสังเคราะห์ แต่ละแบบให้ความรู้สึกและการดูแลรักษาต่างกัน
2. เก้าอี้บาร์แบบไม่มีพนักพิง (Backless Bar Stools)
เก้าอี้บาร์ประเภทนี้เหมาะสำหรับพื้นที่จำกัด หรือต้องการความโปร่งโล่งสบายตา นิยมใช้ในบาร์ขนาดเล็ก เคาน์เตอร์ครัว หรือพื้นที่สังสรรค์ชั่วคราว
ทรงกลม
– คลาสสิก เข้ากับหลายสไตล์การตกแต่ง
– มักมีขนาดกะทัดรัด เหมาะสำหรับพื้นที่แคบ
– บางรุ่นมีเบาะนั่งหมุนได้ เพิ่มความสะดวกในการนั่ง
– เหมาะสำหรับการนั่งระยะสั้นถึงปานกลาง
ทรงเหลี่ยม
– ดูทันสมัย เหมาะกับการตกแต่งแบบมินิมอลหรือโมเดิร์น
– บางรุ่นมีรูปทรงเรขาคณิตที่น่าสนใจ สร้างจุดเด่นให้กับพื้นที่
– มักมีพื้นที่นั่งกว้างกว่าแบบทรงกลม ให้ความสบายมากขึ้น
– เหมาะสำหรับการจัดวางเรียงกันเป็นแถว เพราะประหยัดพื้นที่
ข้อควรพิจารณา
– ความสูงของที่นั่ง : ควรเลือกให้เหมาะกับความสูงของเคาน์เตอร์หรือโต๊ะ
– วัสดุของที่นั่ง : อาจเป็นไม้ โลหะ หรือพลาสติก แต่ละแบบให้ความทนทานและความสบายต่างกัน
– รูปทรงของขา : มีทั้งแบบขาตรง ขาเอียง หรือขาโค้ง ส่งผลต่อความมั่นคงและสไตล์
3. เก้าอี้บาร์แบบหมุนได้ (Swivel Bar Stools)
เก้าอี้บาร์ประเภทนี้เพิ่มความยืดหยุ่นในการใช้งาน เหมาะสำหรับพื้นที่ที่ต้องการความคล่องตัวในการเคลื่อนไหว
หมุนได้ 360 องศา
– ให้อิสระในการเคลื่อนไหวสูงสุด สามารถหันไปได้ทุกทิศทาง
– เหมาะสำหรับพื้นที่สังสรรค์ที่ต้องการการปฏิสัมพันธ์
– บางรุ่นมีระบบรองรับแรงกระแทก ทำให้การหมุนนุ่มนวลขึ้น
– ต้องระวังเรื่องความปลอดภัย โดยเฉพาะในบ้านที่มีเด็กเล็ก
หมุนได้บางส่วน
– ควบคุมทิศทางได้ดีกว่า มักจำกัดการหมุนไว้ที่ 180 หรือ 90 องศา
– เหมาะสำหรับพื้นที่ที่ต้องการความยืดหยุ่นแต่ยังคงความเป็นระเบียบ
– มักมีความมั่นคงมากกว่าแบบหมุนได้ 360 องศา
– เหมาะสำหรับใช้ในครัวหรือบาร์ที่ต้องการให้ผู้นั่งหันหน้าเข้าหาพื้นที่ทำงานเป็นหลัก
ข้อควรพิจารณา
– กลไกการหมุน : ควรเลือกรุ่นที่มีกลไกแข็งแรง ไม่ส่งเสียงดังเวลาหมุน
– การล็อคการหมุน : บางรุ่นมีระบบล็อคเพื่อป้องกันการหมุนโดยไม่ตั้งใจ
– วัสดุของฐาน : ควรเลือกวัสดุที่แข็งแรง รองรับน้ำหนักได้ดี เพื่อความปลอดภัย
4. เก้าอี้บาร์แบบปรับระดับได้ (Adjustable Height Bar Stools)
เก้าอี้บาร์ประเภทนี้มีความยืดหยุ่นสูง สามารถปรับให้เข้ากับความสูงของผู้ใช้และโต๊ะหรือเคาน์เตอร์ที่หลากหลาย
ปรับด้วยระบบไฮดรอลิก
– ปรับได้นุ่มนวล เงียบ ไม่รบกวนผู้อื่น
– มักมีช่วงการปรับที่กว้าง ทำให้ใช้ได้กับโต๊ะหลายระดับ
– เหมาะสำหรับพื้นที่ที่มีผู้ใช้หลากหลายวัย หรือความสูง
– บางรุ่นมีระบบล็อคความสูง เพิ่มความปลอดภัย
ปรับด้วยระบบสกรู
– แข็งแรง ทนทาน เหมาะสำหรับการใช้งานหนัก
– มักมีราคาถูกกว่าแบบไฮดรอลิก
– การปรับอาจต้องใช้แรงมากกว่า แต่สามารถล็อคตำแหน่งได้แน่นหนา
– เหมาะสำหรับพื้นที่ที่ไม่ต้องปรับบ่อย เช่น บาร์ในบ้านที่ใช้คนในครอบครัว
ข้อควรพิจารณา
– ช่วงการปรับ : ควรเลือกให้ครอบคลุมความสูงที่ต้องการใช้งาน
– ความแข็งแรงของกลไก : โดยเฉพาะสำหรับการใช้งานในพื้นที่สาธารณะ
– น้ำหนักของเก้าอี้ : เก้าอี้ปรับระดับมักมีน้ำหนักมากกว่าแบบธรรมดา
5. เก้าอี้บาร์แบบมีที่วางเท้า (Bar Stools with Footrests)
เก้าอี้บาร์ประเภทนี้เพิ่มความสบายในการนั่ง โดยเฉพาะเมื่อนั่งเป็นเวลานาน เหมาะสำหรับทุกพื้นที่ที่ต้องการความสบายในการนั่ง
ที่วางเท้าแบบวงกลม
– คลาสสิก แข็งแรง มักพบในเก้าอี้บาร์แบบดั้งเดิม
– รองรับน้ำหนักได้ดี เหมาะสำหรับการใช้งานหนัก
– มักทำจากโลหะ ทนทานต่อการสึกหรอ
– ดีไซน์เรียบง่าย เข้ากับหลายสไตล์การตกแต่ง
ที่วางเท้าแบบราว
– ดูทันสมัย ให้พื้นที่วางเท้ามากกว่าแบบวงกลม
– บางรุ่นมีราวหลายระดับ ให้ความยืดหยุ่นในการวางเท้า
– มักพบในเก้าอี้บาร์สไตล์โมเดิร์นหรือร่วมสมัย
– สามารถออกแบบให้เป็นส่วนหนึ่งของโครงสร้างเก้าอี้ได้อย่างลงตัว
ข้อควรพิจารณา
– วัสดุของที่วางเท้า : ควรทนทาน ไม่ลื่น และง่ายต่อการทำความสะอาด
– ตำแหน่งของที่วางเท้า : ควรอยู่ในระดับที่สบายสำหรับผู้ใช้ส่วนใหญ่
– การออกแบบ : ควรกลมกลืนกับโครงสร้างของเก้าอี้
6. เก้าอี้บาร์แบบมีเบาะนั่ง (Upholstered Bar Stools)
เก้าอี้บาร์ประเภทนี้เพิ่มความสบายและความหรูหรา สามารถเลือกสีและวัสดุให้เข้ากับการตกแต่งได้
เบาะหนัง
– ดูหรูหรา ทำความสะอาดง่าย เหมาะสำหรับบาร์ในบ้านหรือร้านอาหารหรู
– ทนทาน อายุการใช้งานยาวนานหากดูแลรักษาอย่างถูกต้อง
– มีทั้งหนังแท้และหนังเทียม ให้เลือกตามงบประมาณและความต้องการ
– สามารถเลือกสีและลายได้หลากหลาย เข้ากับการตกแต่งได้ง่าย
เบาะผ้า
– หลากหลายสีและลวดลาย สามารถสร้างบรรยากาศที่อบอุ่นหรือสดใส
– นุ่มสบาย เหมาะสำหรับการนั่งนานๆ
– สามารถเปลี่ยนผ้าหุ้มได้ง่าย ทำให้ปรับเปลี่ยนลุคได้ตามต้องการ
– ต้องระวังเรื่องการทำความสะอาด โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีการรับประทานอาหารหรือเครื่องดื่ม
ข้อควรพิจารณา
– ความทนทานของวัสดุหุ้ม : โดยเฉพาะสำหรับพื้นที่ที่มีการใช้งานหนัก
– การดูแลรักษา : บางวัสดุอาจต้องการการดูแลเป็นพิเศษ
– ความหนาของเบาะ : ควรเลือกให้เหมาะสมกับระยะเวลาในการนั่ง
7. เก้าอี้บาร์แบบพับได้ (Folding Bar Stools)
เก้าอี้บาร์ประเภทนี้เหมาะสำหรับพื้นที่จำกัดหรือการใช้งานชั่วคราว สามารถเก็บได้ง่ายเมื่อไม่ใช้งาน
พับแบบแบน
– เก็บได้บางที่สุด เหมาะสำหรับพื้นที่ที่มีที่เก็บจำกัด
– มักมีน้ำหนักเบา ง่ายต่อการเคลื่อนย้าย
– เหมาะสำหรับงานปาร์ตี้หรือการใช้งานชั่วคราว
– อาจมีความแข็งแรงน้อยกว่าแบบอื่น ไม่เหมาะสำหรับการใช้งานหนัก
พับครึ่ง
– แข็งแรงกว่าแบบพับแบน เหมาะสำหรับการใช้งานที่บ่อยขึ้น
– มักมีดีไซน์ที่แข็งแรงและมั่นคงกว่า
– เก็บง่าย แต่อาจใช้พื้นที่ในการเก็บมากกว่าแบบพับแบน
– เหมาะสำหรับอพาร์ตเมนต์ขนาดเล็กหรือพื้นที่อเนกประสงค์
ข้อควรพิจารณา
– ความแข็งแรงของกลไกพับ : ควรทนทานต่อการพับและกางบ่อยๆ
– น้ำหนักรับ : ต้องมั่นใจว่ารับน้ำหนักได้เพียงพอเมื่อกางออก
– ความง่ายในการพับและกาง : ควรทำได้ง่าย ไม่ต้องใช้แรงมาก
8. เก้าอี้บาร์แบบมีล้อ (Bar Stools with Wheels)
เก้าอี้บาร์ประเภทนี้เคลื่อนย้ายสะดวก เหมาะกับพื้นที่ที่ต้องการความยืดหยุ่นสูง
ล้อแบบล็อคได้
– ปลอดภัย สามารถล็อคเมื่อต้องการความมั่นคง
– เหมาะสำหรับพื้นที่ทำงานที่ต้องการทั้งความเคลื่อนไหวและความมั่นคง
– มักพบในสำนักงานหรือห้องครัวที่มีเคาน์เตอร์หลายระดับ
– ช่วยป้องกันการเลื่อนไถลโดยไม่ตั้งใจ
ล้อแบบหมุนได้ 360 องศา
– คล่องตัวสูงสุด สามารถเคลื่อนที่ได้ทุกทิศทาง
– เหมาะสำหรับพื้นที่ทำงานที่ต้องการความยืดหยุ่นสูง เช่น สตูดิโอ
– อาจไม่เหมาะกับพื้นผิวที่ลาดเอียงหรือไม่เรียบ
– ต้องระมัดระวังเรื่องความปลอดภัย โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีเด็กหรือผู้สูงอายุ
ข้อควรพิจารณา
– ขนาดและวัสดุของล้อ: ควรเหมาะกับพื้นผิวที่จะใช้งาน
– ระบบเบรค: สำหรับรุ่นที่มีล้อล็อคได้ ควรใช้งานง่ายและมีประสิทธิภาพ
– ความแข็งแรงของโครงสร้าง: ต้องรองรับทั้งน้ำหนักและการเคลื่อนไหวได้ดี
การเลือกเก้าอี้บาร์ที่เหมาะสมจะช่วยเพิ่มทั้งประโยชน์ใช้สอยและความสวยงามให้กับพื้นที่ของคุณ ไม่ว่าจะเป็นบ้าน สำนักงาน หรือร้านอาหาร การพิจารณาทั้งรูปแบบการใช้งาน สไตล์การตกแต่ง และข้อจำกัดของพื้นที่จะช่วยให้คุณเลือกเก้าอี้บาร์ที่ตอบโจทย์ที่สุดได้
สอบถามข้อมูลสินค้า สั่งซื้อ INBOX หรือ LINE: @modernoutdoor (มี@)
✆ 02-319-1015 ✆ 095-902-6226
ดูสินค้าเพิ่มเติมได้ที่ : modernoutdoor
สามารถเลือกชมสินค้าตัวจริง ได้ที่
โชว์รูม 8 พัฒนาการ 20 แยก 4 สวนหลวง กทม.
maps : http://bit.ly/MO-HeadOffice
เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00-17.00น.